Green Living ชีวิตสีเขียว ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ในยุคที่โลกเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกวัน ไลฟ์สไตล์แบบ “Green Living” หรือ “การใช้ชีวิตสีเขียว” จึงกลายเป็นแนวทางที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะอยากช่วยโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่เริ่มได้จากสิ่งเล็ก ๆ ในบ้านของเราเอง เพียงปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและตัวเราได้พร้อมกัน


1. ติดฉนวนกันความร้อน — ลดการใช้พลังงานจากต้นเหตุ

Green Living

หลายบ้านอาจไม่รู้ว่า “ความร้อน” ที่สะสมในบ้านคือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน การติดฉนวนกันความร้อน หรือ โซลาร์เซลล์ บนหลังคาหรือผนังจึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้จริง โดยเฉพาะในฤดูร้อนของประเทศไทยที่อุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี

เมื่อบ้านเย็นลงตามธรรมชาติ เครื่องปรับอากาศก็ไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและค่าไฟในระยะยาว อีกทั้งยังยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งกับกระเป๋าเงินและสิ่งแวดล้อม

2. ใช้พลังงานสะอาด — พลังจากแสงอาทิตย์และหลอดไฟ LED

Green Living

อีกหนึ่งวิธีสำคัญในการใช้ชีวิตสีเขียว คือการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและลดการใช้พลังงานฟุ่มเฟือย การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ช่วยให้บ้านผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองได้จากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ไม่สร้างมลพิษ

สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมติดโซลาร์เซลล์ การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ก็ถือเป็นก้าวแรกที่ดี หลอด LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไส้ทั่วไปถึง 80% และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 เท่า นอกจากช่วยลดค่าไฟแล้ว ยังลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระยะยาวอีกด้วย

3. ปลูกต้นไม้ในบ้าน — เติมชีวิตและอากาศบริสุทธิ์

Green Living

การปลูกต้นไม้ในบ้านไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่ยังช่วยฟอกอากาศและสร้างความสดชื่นให้พื้นที่อยู่อาศัยอีกด้วย ต้นไม้บางชนิด เช่น ลิ้นมังกร พลูด่าง และยางอินเดีย สามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้จริง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชื้นและลดอุณหภูมิในห้องได้อย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ การดูแลต้นไม้ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เติมความสงบให้ใจ และเชื่อมโยงเรากับธรรมชาติมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบาลานซ์ระหว่างชีวิตการทำงานและการพักผ่อน

4. ปรับโซนนั่งเล่นให้รับลมธรรมชาติ — ใช้พลังงานให้น้อยแต่ได้ความสบายมากขึ้น

Green Living

การออกแบบหรือจัดโซนนั่งเล่นให้โปร่ง โล่ง และรับลมจากธรรมชาติได้เต็มที่ เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่าที่คิด การเปิดหน้าต่างให้ลมถ่ายเท หรือใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศในบางช่วงเวลา จะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนั้น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ธรรมชาติหรือวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้รีไซเคิล หรือผ้าฝ้ายออร์แกนิก ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นและกลมกลืนกับแนวคิดนี้ได้อย่างลงตัว


Green Living ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่ช่วยให้เราสบายขึ้นและโลกดีขึ้นในเวลาเดียวกัน ทุกการเลือกเล็ก ๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการติดฉนวนกันความร้อน เปลี่ยนหลอดไฟ ปลูกต้นไม้ หรือเปิดหน้าต่างให้ลมธรรมชาติพัดผ่าน ล้วนเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคตของโลกใบนี้

เมื่อเราลองเริ่มปรับพฤติกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน จะพบว่าการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย บ้านจะเย็นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพลังงานมาก ต้นไม้รอบตัวจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และเราจะใช้ทรัพยากรอย่างมีสติและคุ้มค่ามากขึ้น

“ชีวิตสีเขียว” จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังหมายถึงการดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่บ้านของเราในวันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าโลกที่ยั่งยืนเริ่มต้นได้จากมือของคุณเอง

📌 อ่านบล็อคของ Bygge เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเรา:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

Website: https://www.byggesolutions.com/blog

แนวคิด Hygge: ปรัชญาแห่งความสุขและความอบอุ่นในบ้าน

เมื่อแนวคิด ‘Hygge’ พบกับวิถีชีวิตแบบไทย

แนวคิด Hygge in family

เมื่อเราพูดถึงคำว่า “บ้าน” ภาพที่ผุดขึ้นในใจของหลายคนอาจเป็นสถานที่ที่เราใช้พักผ่อนหลังวันอันยาวนาน พื้นที่แห่งความปลอดภัยที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัว หรือมุมโปรดที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง แต่ความหมายของคำว่า “บ้าน” อาจลึกซึ้งกว่านั้น หากเราลองเปิดใจทำความรู้จักกับ’ แนวคิด Hygge’ (ฮู-กะ)

คำว่า Hygge มีรากศัพท์มาจากภาษานอร์เวย์และสวีเดน แปลได้ว่า “ความอบอุ่นใจ” หรือ “ความสุขเรียบง่ายที่ทำให้รู้สึกสบาย” ต่อมาแนวคิดนี้ได้รับการเผยแพร่และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเดนมาร์ก จนกลายเป็นหัวใจสำคัญของวิถีชีวิตชาวเดนมาร์กที่มักถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก สิ่งนี้ไม่ใช่แค่คำหรือสไตล์การตกแต่งบ้าน แต่คือ “ปรัชญาการใช้ชีวิต” ที่มุ่งเน้นการสร้างความสุขจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ ในเช้าวันฝนตก การจุดเทียนสร้างบรรยากาศอบอุ่นในยามค่ำ หรือการใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวโดยไม่ต้องมีสิ่งรบกวน สิ่งเหล่านี้คือสาระสำคัญของแนวคิดนี้ — ความเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความหมาย และความสุขที่หาได้จากสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน

เมื่อแนวคิดจากสแกนดิเนเวียมาบรรจบกับความเป็นไทย

แม้ประเทศไทยจะอยู่คนละซีกโลกกับเดนมาร์ก แต่ในความจริงแล้ว แนวคิด Hygge กลับเข้ากันได้ดีกับวิถีชีวิตของคนไทยอย่างน่าทึ่ง ทั้งสองวัฒนธรรมต่างให้ความสำคัญกับครอบครัว การอยู่ร่วมกัน และความอบอุ่นใจจากการได้อยู่บ้าน ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแนวคิดที่ว่า “ความสุขที่แท้จริงเริ่มต้นจากบ้าน”

สำหรับคนไทย บ้านไม่ได้เป็นเพียงสถานที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำและความรัก ที่ทุกกิจกรรมเล็ก ๆ รอบตัวสามารถสร้างความสุขได้ เช่น การทำอาหารร่วมกันในวันหยุด การนั่งกินข้าวพร้อมหน้ากัน การดูแลต้นไม้เล็ก ๆ รอบบ้าน การจัดมุมอ่านหนังสือหรือมุมโปรดของเด็ก ๆ หรือแม้กระทั่งการใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยง สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อน “Hygge แบบไทย ๆ” การหาความสุขจากสิ่งใกล้ตัวและการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง

Bygge Solutions: สร้างนวัตกรรมที่เชื่อมโยงบ้านและความสุข

ด้วยแนวคิดนี้เอง Bygge Solutions /บี๊ก/ จึงเกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะเป็นมากกว่าผู้ผลิตนวัตกรรมเพื่อบ้าน แต่เป็นแบรนด์ที่สร้าง “ความสุขเรียบง่ายและยั่งยืน” ให้กับทุกครัวเรือนของไทย ชื่อ “Bygge” มาจากแรงบันดาลใจที่ผสมผสานระหว่างคำว่า “Baan” (บ้าน) ในภาษาไทย และคำว่า “Hygge” สื่อถึงความอบอุ่นและความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว การรวมกันของสองคำนี้จึงสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่มุ่งเชื่อมโยง “บ้าน” กับ “ความสุข” ผ่านนวัตกรรมที่เข้าถึงได้ง่ายและยั่งยืน

เรามุ่งพัฒนานวัตกรรมที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนสามารถสัมผัสความสุขเล็ก ๆ ได้ในทุกวันผ่าน แนวคิด Hygge ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกำจัดเศษอาหาร Bygge Super Composter ที่ช่วยลดขยะในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ SuperBact ที่ใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติทำความสะอาดอย่างปลอดภัย หรือ ผลิตภัณฑ์ Organic Multipurpose Cleaner น้ำยาอเนกประสงค์ที่ช่วยทำความสะอาดทั้งบ้านและโลกในเวลาเดียวกัน

ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Bygge ถูกออกแบบโดยยึดแนวคิดแบบ Hygge-inspired Living คือการสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านที่อบอุ่น น่าอยู่และยั่งยืน พร้อมช่วยให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากที่สุด

บ้านคือจุดเริ่มต้นของความสุข

เพราะสำหรับเรา “บ้าน” ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่คือสถานที่ที่เราสร้างความทรงจำ แบ่งปันรอยยิ้ม และเติมเต็มความหมายของชีวิตในทุกวัน Bygge จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้บ้านของคุณอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย และช่วยให้คุณค้นพบ “ความสุขแบบ Hygge” ที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด

สุดท้ายแล้ว ความสุขอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องออกไปตามหาไกล ๆ แต่อยู่ในกลิ่นกาแฟหอม ๆ ยามเช้า เสียงหัวเราะของครอบครัว และบ้านที่คุณรัก — บ้านที่อบอุ่นจากใจ

📌 ติดตามเรื่องราวดี ๆ เคล็ดลับดูแลบ้าน และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของ Bygge ได้ที่:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

Website: https://www.byggesolutions.com/

 

ล้างท้องก่อนกินเจ เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับเทศกาลกินเจ

ล้างท้องก่อนกินเจ: เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับเทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจปีนี้เริ่ม วันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่หลายคนใช้โอกาสนี้ทำบุญและปรับพฤติกรรมการกินให้เบาและอ่อนโยนต่อร่างกาย การล้างท้องก่อนกินเจ ทำ 1 วันก่อนเทศกาล เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายสะอาด พร้อมรับบุญ และทำให้การถือศีลกินเจเป็นไปอย่างเต็มที่ หลายคนอาจสงสัยว่า “ล้างท้องก่อนกินเจ” คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ ในบทความนี้ Bygge พาเพื่อน ๆ มาดูวิธีล้างท้องก่อนกินเจอย่างง่าย ๆ พร้อมไอเดียปรับอาหารให้เหมาะสม

ล้างท้องก่อนกินเจ

การล้างท้องก่อนกินเจ คืออะไร?

การล้างท้องก่อนกินเจ คือขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเตรียมร่างกายล่วงหน้าประมาณ 1–2 วันก่อนเทศกาลกินเจจริง เพื่อชะล้างสิ่งตกค้างจากอาหารคาว เนื้อสัตว์ และผักต้องห้าม การล้างท้องไม่ได้หมายถึงการอดอาหารอย่างเดียว แต่เป็นการปรับพฤติกรรมการกินให้เบาและอ่อนโยนต่อระบบย่อยอาหาร เช่น การเพิ่มผัก ผลไม้ และโปรตีนจากพืช พร้อมลดหรือหยุดทานเนื้อสัตว์และอาหารรสจัด การเริ่มล้างท้องก่อนวันกินเจอย่างน้อยหนึ่งวันช่วยให้ร่างกายสะอาด ลดภาระการย่อยอาหาร และทำให้ผู้ถือศีลสามารถปฏิบัติตามประเพณีได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ การล้างท้องยังช่วยให้ร่างกายปรับสมดุล ลดความรู้สึกหนักหรือแน่นท้องเมื่อต้องทานอาหารเจเต็มรูปแบบในวันเทศกาล และทำให้จิตใจพร้อมสำหรับการทำบุญ ถือศีล และร่วมกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างมีสมาธิ การล้างท้องก่อนกินเจจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมจิตใจให้พร้อม รับบุญ และเริ่มต้นเทศกาลกินเจอย่างเต็มที่

วิธีการล้างท้องก่อนกินเจ

วิธีการล้างท้องก่อนกินเจ

ในวันแรกของการล้างท้อง แนะนำให้เพิ่มผักและผลไม้ในแต่ละมื้อ ลดการบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดง หากจำเป็นสามารถเลือกทานไก่หรือปลาแทน พร้อมเพิ่มโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ ถั่ว และโปรตีนเกษตร เพื่อให้ร่างกายยังได้รับสารอาหารครบถ้วน

เข้าสู่วันที่สองของการล้างท้อง จะเน้นการงดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทั้งหมด พร้อมงดผักกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หอมใหญ่ กุยช่าย และเครื่องเทศแรง ๆ รวมถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารควรเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่าย เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลและสะอาดทั้งภายในและภายนอก


นอกจากนี้ การล้างท้องก่อนกินเจยังเป็นโอกาสที่ดีในการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ก่อนเริ่มเทศกาล หลายบ้านอาจมีอาหารที่งดกินในช่วงเจ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ หรือผลิตภัณฑ์นม ที่ยังเหลืออยู่ในตู้เย็น การนำอาหารเหล่านี้ไปกำจัดอย่างยั่งยืนด้วย Bygge SuperComposter สามารถช่วยเปลี่ยนของเหล่านี้ให้กลายเป็นดินอินทรีย์คุณภาพสูงได้ภายในเวลาไม่นาน ไม่เพียงช่วยลดของเสียในครัวและปริมาณขยะที่ต้องนำไปทิ้ง แต่ยังเป็นการ เคลียร์ตู้เย็นให้พร้อมสำหรับช่วงกินเจ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การล้างท้องในปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ และโลกของเราไปพร้อมกันอย่างแท้จริง

ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.gourmetandcuisine.com/news/detail/11983

One Stop Shopping Expo นำเสนอไลฟ์สไตล์รักษ์โลกกับ Bygge

One Stop Shopping Expo นำเสนอไลฟ์สไตล์รักษ์โลกกับ Bygge

One Stop Shopping Expo

ช่วงวันที่ 11–19 ตุลาคมที่ผ่านมา Bygge ได้เข้าร่วมงาน One Stop Shopping ExpoBITEC บางนา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และแนะนำแนวทางการ จัดการขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านนวัตกรรมของ Bygge ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม

ภายในบูธของ Bygge ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับการสาธิตการทำงานของ Bygge Super Composter เครื่องกำจัดเศษอาหารอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นดินอินทรีย์คุณภาพสูงได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังได้ทดลองใช้ Bygge Multi-purpose Cleaner น้ำยาอเนกประสงค์จากน้ำหมักชีวภาพแท้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อมือ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

บรรยากาศในบูธเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเอง ผู้เข้าชมหลายท่านนำเศษอาหารของตนมาทดลองโยนลงในเครื่อง Super Composter พร้อมเรียนรู้หลักการจัดการเศษอาหารอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ขณะเดียวกันยังได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตรักษ์โลกในแบบของตนเอง บางท่านแชร์ประสบการณ์การทำปุ๋ยอินทรีย์จากเศษอาหารที่บ้าน บางท่านสนใจนำเทคโนโลยีของ Bygge ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นโอกาสให้ Bygge ได้แนะนำผลิตภัณฑ์รักษ์โลก แต่ยังเป็นการ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเห็นว่า การดูแลโลกเริ่มต้นได้จากภายในบ้าน เพียงเปลี่ยนมุมมองต่อ “ขยะอาหาร” ให้กลายเป็น “คุณค่า” ก็สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง Bygge มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าส่งต่อความรู้ ความเข้าใจ และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกที่สะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้นในอนาคต

📌 ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ Bygge ได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเรา:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

Website: https://www.byggesolutions.com/blog

วันอาหารโลก: ร่วมสร้างโลกที่ปลอดขยะอาหารไปกับ Bygge

วันอาหารโลก: ร่วมสร้างโลกที่ปลอดขยะอาหารไปกับ Bygge

แม้ว่า วันอาหารโลก (World Food Day) จะผ่านไปแล้ว แต่แนวคิดเรื่องการบริโภคอย่างรู้คุณค่าและการ ลดขยะอาหาร (Food Waste) ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในทุก ๆ วัน เพราะ “อาหาร” ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิต แต่ยังเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงทางอาหารของโลก

วันอาหารโลก

ความสำคัญของวันอาหารโลก (World Food Day)

วันที่ 16 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันที่ทั่วโลกเฉลิมฉลอง วันอาหารโลก เพื่อระลึกถึงการก่อตั้งของ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งดำเนินงานมากว่า 75 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาความอดอยาก ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร และผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) ยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการสูญเสียทรัพยากร ทั้งในกระบวนการผลิต การขนส่ง และการบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจโดยรวม ในแต่ละปี มีอาหารหลายล้านตันทั่วโลกที่ถูกทิ้งไปโดยไม่ได้ถูกบริโภค ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในสภาพที่สามารถรับประทานได้ การลดขยะอาหารจึงไม่ใช่แค่การประหยัดเงินหรือพื้นที่จัดเก็บเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและขนส่งอาหาร รวมถึงเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อให้ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น

วันอาหารโลกนี้ เริ่มลดขยะอาหารโลกได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน

Bygge เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืนเนื่องในโอกาสวันอาหารโลก เริ่มต้นได้จาก “ครัวของเราเอง” ผ่านวิธีง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การวางแผนการซื้อวัตถุดิบให้พอดีกับการบริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการทิ้งอาหารโดยไม่จำเป็น การแปรรูปอาหารเหลือให้เกิดประโยชน์ใหม่ และการแยกเศษอาหารออกจากขยะทั่วไปอย่างถูกวิธี ซึ่งทั้งหมดนี้คือก้าวเล็ก ๆ ที่ช่วยลดขยะอาหารและดูแลโลกได้อย่างยั่งยืน

และอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้การจัดการเศษอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือการใช้ เครื่องย่อยเศษอาหาร Bygge Super Composter นวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็น ดินอินทรีย์คุณภาพสูง ภยในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง นอกจากจะช่วยลดขยะอาหารแล้ว การใช้เครื่องย่อยเศษอาหารยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเศษอาหารในครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ และเปลี่ยนของเหลือให้กลายเป็นดินอินทรีย์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เพิ่มประโยชน์ให้กับดินในสวนหรือกระถางต้นไม้ของคุณได้อย่างยั่งยืน

เพราะ “อาหารบนโลกทุกคำมีคุณค่า อย่าปล่อยให้สูญเปล่า”

แม้วันอาหารโลกจะเป็นเพียงอีกหนึ่งวันสำคัญในปฏิทิน แต่ “จิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่ออาหาร” ควรเกิดขึ้นทุกวันในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนมื้ออาหารให้พอดี การเก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธี หรือการนำเศษอาหารไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น ทำปุ๋ย หรือใช้ในกระบวนการรีไซเคิลอินทรีย์ ทั้งหมดนี้คือก้าวเล็ก ๆ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ได้ มาร่วมกันดูแลโลก เริ่มจากบ้านของเราเองไปกับ Bygge

📌 อ่านบล็อคของ Bygge เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเรา:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

Website: https://www.byggesolutions.com/blog

วิธีลด Food Waste ทำง่ายที่บ้าน ช่วยโลกและประหยัดเงิน

ปัญหา Food Waste หรืออาหารเหลือทิ้ง กลายเป็นเรื่องสำคัญในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากร แต่ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การจัดการอาหารอย่างชาญฉลาดสามารถช่วยลดของเสีย ประหยัดเงิน และสร้างประโยชน์ต่อโลกได้ Bygge จึงขอแนะนำ 4 วิธีลด Food Waste ที่ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เพื่อช่วยลดของเสีย ประหยัดเงิน และสร้างประโยชน์ให้สิ่งแวดล้อม:


วิธีลด Food Waste

1. วางแผนการซื้อวัตถุดิบ
ก่อนจะไปจ่ายตลาด ควรตรวจสอบของที่มีอยู่ในตู้เย็นและจัดลิสต์รายการวัตถุดิบที่จำเป็น การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้คุณซื้อเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้ ลดโอกาสซื้อเกินความจำเป็น และช่วยให้การทำอาหารในแต่ละสัปดาห์มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การเตรียมเมนูล่วงหน้าสำหรับแต่ละวันยังช่วยให้ใช้วัตถุดิบได้ครบถ้วนและลดอาหารเหลือทิ้ง

วิธีลด Food Waste

2. จัดเก็บอาหารให้ถูกวิธี
การเก็บอาหารในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมช่วยยืดอายุอาหารให้นานขึ้น ควรแยกประเภทอาหารตามความเหมาะสม เช่น อาหารสดและผลไม้ควรแช่ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ขณะที่อาหารแห้งหรือเครื่องปรุงสามารถเก็บในที่แห้งและเย็น การใช้ภาชนะที่มีฝาปิดหรือถุงซิปล็อกก็ช่วยป้องกันการเน่าเสียและรักษาคุณภาพอาหารได้นานขึ้น

วิธีลด Food Waste

3. ตรวจสอบวันหมดอายุ
การตรวจสอบวันหมดอายุเป็นวิธีง่าย ๆ แต่สำคัญมากในการลด Food Waste เมื่อรู้ว่าวัตถุดิบตัวไหนใกล้หมดอายุ เราสามารถวางแผนปรุงอาหารให้เหมาะสม เช่น ทานก่อน หรือแปรรูปเป็นเมนูอื่น ๆ เช่น สมูทตี้ แกง หรือซุป การเรียงอาหารตามวันหมดอายุ (First In, First Out) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ใช้วัตถุดิบได้ครบและลดการทิ้งอาหารที่ยังสามารถบริโภคได้

วิธีลด Food Waste

4. เปลี่ยนเศษอาหารให้เป็นดินอินทรีย์
เศษอาหารที่เหลือสามารถนำไปหมักเป็น ดินอินทรีย์ (Compost) ได้ง่าย ๆ เพียงใส่เศษอาหารลงในถังหมักอินทรีย์หรือถังหมักเศษอาหารที่บ้าน ดินที่ได้จะมีคุณภาพสูง ปลอดสารเคมี และเหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ ผักสวนครัว หรือดอกไม้ การหมักเศษอาหารไม่เพียงลดปริมาณขยะ แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับสวนหรือพื้นที่สีเขียวของคุณ


สำหรับใครที่อยาก จัดการเศษอาหารได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอแนะนำ Bygge Super Composter เครื่องหมักเศษอาหารอัจฉริยะ ที่ช่วยเปลี่ยนเศษอาหารในบ้านให้กลายเป็นดินอินทรีย์คุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับครัวเรือน เป็นอีกหนึ่ง วิธีลด Food Waste Food Waste ที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมของเราได้

📌 อ่านบล็อคของ Bygge เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเรา:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

Website: https://www.byggesolutions.com/blog

 

Bygge ร่วมงาน Sustainability Expo 2025 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568 Bygge ได้เข้าร่วม Sustainability Expo 2025 มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้เป็นเวทีที่รวมองค์กรและนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมจากทั่วเอเชีย พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานทุกกลุ่มเรียนรู้แนวคิดและเทคโนโลยีเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน

ภายในงาน Bygge ได้นำ เครื่อง Bygge Super Composter ทั้งขนาดครัวเรือนและอุตสาหกรรมของจริงมาโชว์ พร้อม สาธิตวิธีการใช้งาน ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ตรงกับ เทคโนโลยีรีไซเคิลและการจัดการขยะ ของเรา ช่วยให้เห็นชัดเจนว่า เศษวัสดุสามารถเปลี่ยนเป็นทรัพยากรใหม่ได้ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และยั่งยืนสำหรับทุกคน

งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสให้เราได้นำเสนอเทคโนโลยีของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้กับองค์กรและบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนเหมือนกัน ช่วยต่อยอดแนวคิดใหม่ ๆ ในการพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน

Bygge เชื่อว่า “การสร้างความยั่งยืนเริ่มต้นจากตัวเรา” และเรายินดีที่ได้มีส่วนร่วมในงานสำคัญครั้งนี้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ดีขึ้นไปด้วยกัน

📌 ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ Bygge ได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเรา:

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

ค่า OM ตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของดิน

ในโลกของการเกษตรและการดูแลสิ่งแวดล้อม “ดิน” คือหัวใจสำคัญของระบบนิเวศที่ดี เพราะดินที่ดีไม่เพียงช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ แร่ธาตุ และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติอีกด้วย หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่บอกถึงคุณภาพของดินก็คือ ค่า OM หรือ Organic Matter (อินทรียวัตถุในดิน) ซึ่งหลายคนอาจยังไม่คุ้นหู แต่มีบทบาทสำคัญกว่าที่คิด

ค่า OM คืออะไร?

 

ค่า OM คือค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณ “สารอินทรีย์” ที่มีอยู่ในดิน ซึ่งเกิดจากการย่อยสลายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เช่น ใบไม้ที่ร่วงหล่น เศษพืช ซากสัตว์ รวมถึงปุ๋ยหมัก โดยสารอินทรีย์เหล่านี้อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่ช่วยย่อยสลายวัตถุให้กลายเป็นสารอาหารที่พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย

ดินที่มีค่า OM สูงจึงมักจะเป็นดินที่ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี และเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งตรงกันข้ามกับดินที่ขาดอินทรียวัตถุซึ่งมักจะแข็ง ขาดอากาศ และไม่สามารถเก็บความชื้นได้

ความสำคัญของค่า OM ต่อระบบนิเวศและการเพาะปลูก

  1. ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน
    อินทรียวัตถุทำให้ดินร่วนซุย ไม่แน่นทึบ ช่วยให้รากพืชสามารถแผ่กระจายและดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
  2. ช่วยเก็บน้ำและธาตุอาหารในดิน
    ดินที่มีค่า OM สูงสามารถอุ้มน้ำได้มากขึ้น ลดการชะล้างของแร่ธาตุ และช่วยให้พืชได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่อง
  3. ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร
    ดินที่มีคุณภาพดีจากอินทรียวัตถุเพียงพอ ช่วยลดความจำเป็นในการพึ่งพาสารเคมี ซึ่งเป็นการเกษตรที่ยั่งยืนมากกว่าในระยะยาว
  4. เพิ่มคุณภาพและผลผลิตของพืช
    การรักษาค่า OM ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้พืชเติบโตได้ดี แต่ยังทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ค่า OM ของดิน

ในยุคที่ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) กำลังเป็นหนึ่งในประเด็นใหญ่ของโลก การหาวิธีจัดการเศษอาหารอย่างยั่งยืนจึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญ Bygge มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ด้วยนวัตกรรม Bygge SuperComposter เครื่องย่อยเศษอาหารอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนเศษอาหารในครัวเรือนให้กลายเป็น “ดินอินทรีย์คุณภาพสูง”

ผลลัพธ์ที่ได้จาก Bygge มีค่า OM สูงถึง 25–30 ซึ่งอยู่ในระดับมาตรฐานตามเกณฑ์ของ กรมวิชาการเกษตร และเหมาะสำหรับใช้บำรุงพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักสวนครัว ต้นไม้กระถาง หรือสวนเกษตรขนาดใหญ่การนำดินที่ผลิตจาก Bygge มาใช้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มค่าอินทรีย์วัตถุให้กับดินเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และคืนคุณค่าให้กับธรรมชาติอย่างแท้จริง 

📌 ติดตามเรื่องราวดี ๆ และสาระน่ารู้เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของ Bygge

Line OA: https://lin.ee/2HLoHLu

Facebook: https://www.facebook.com/bygge.solutions.thailand/

Instagram: https://www.instagram.com/bygge.solutions/

TikTok: https://www.tiktok.com/@bygge.solutions

กทม. ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขยะครั้งใหญ่! เปลี่ยนวิธีคิดเรื่อง “ขยะ” ของคนกรุงเทพฯ

กทม. ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขยะครั้งใหญ่! เปลี่ยนวิธีคิดเรื่อง “ขยะ” ของคนกรุงเทพฯ

ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของคนกรุงเทพฯ เมื่อกรุงเทพมหานครได้เริ่มจัดเก็บ ค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ อย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการปรับเพิ่มอัตราการเก็บค่าขยะ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการจัดเก็บและการกำจัดขยะในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยอัตราใหม่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ 👇

  1. กลุ่มที่ 1: บ้านเรือนทั่วไป

    • สำหรับครัวเรือนที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน

    • ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขยะจากเดิม เดือนละ 20 บาท → เดือนละ 60 บาท

  2. กลุ่มที่ 2: ร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย

    • สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร

    • ปรับขึ้นจากเดิม หน่วยละ 40 บาท → หน่วยละ 120 บาทต่อเดือน

  3. กลุ่มที่ 3: อาคารพักอาศัยรวมและผู้ประกอบการรายใหญ่

    • สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะตั้งแต่ 1 ลูกบาศก์เมตรขึ้นไป

    • ปรับขึ้นจากเดิม หน่วยละ 2,000 บาท → หน่วยละ 8,000 บาทต่อเดือน

การปรับอัตราครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ตระหนักถึงต้นทุนของการจัดการขยะ และหันมาแยกขยะอย่างถูกวิธีมากขึ้น เพราะในแต่ละวัน กรุงเทพฯ ต้องจัดการขยะมูลฝอยกว่า 8,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นขยะเปียกและขยะอินทรีย์จากครัวเรือนที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้


“บ้านนี้ไม่เทรวม” ทางเลือกใหม่ ลดขยะ ลดค่าใช้จ่าย

เพื่อลดภาระค่าธรรมเนียมและสร้างพฤติกรรมใหม่ในการแยกขยะอย่างถูกต้อง กรุงเทพมหานครได้เปิดตัวโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” โดยเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานได้แล้ว ทั้งในระบบ IOS และระบบ Android (ระบบ IOS :https://u.bangkok.go.th/Appbkkwastepay ระบบ Android : https://u.bangkok.go.th/Wastepayforandroid)

เพียงแค่แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และนำขยะรีไซเคิลหรือขยะอินทรีย์ไปจัดการอย่างถูกวิธี ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิ์ลดค่าธรรมเนียมขยะ เหลือเพียง 20 บาทต่อเดือน สำหรับกลุ่มบ้านเรือนทั่วไปที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน

ส่วนผู้ที่มีขยะเกินกว่า 20 ลิตรต่อวัน เช่น ร้านค้า หรืออาคารพักอาศัยรวม ก็สามารถลดค่าธรรมเนียมได้เช่นกัน หากมีการแยกขยะและลดปริมาณขยะที่ต้องทิ้งอย่างต่อเนื่อง


การปรับอัตราค่าธรรมเนียมในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย แต่เป็น จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม เพื่อให้คนกรุงเทพฯ หันมามอง “ขยะ” ในมุมใหม่ — ขยะที่แยกได้คือทรัพยากรที่มีค่า

เพราะทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการลดขยะต้นทางได้ ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล หรือขยะอันตรายออกจากกัน การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่ เมืองสีเขียวที่สะอาด ยั่งยืน และน่าอยู่มากขึ้นในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก: สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร BMA Data Center